เรียกว่าสิ้นสุดการรอคอยแล้วครับ หลังจากผมเพิ่งอัพเดทไปไม่กี่วันว่า น้ำเริ่มเขียวน้อยลง และตะกอนก็น้อยลงด้วย ผ่านมาสองสามวันเท่านั้นน้ำใสปิ๊งแล้วครับ พอน้ำใสเห็นปลาเห็นริ้วน้ำแล้วมันรู้สึกสดชื่นมาก รู้สึกว่าหมดห่วงแล้วบ่อเรา คราวนี้ก็ได้ไปดูปลาสวยๆมาลงได้สักที ส่วนระบบกรองมีอะไรทำอย่างไรนั้นไปอ่านได้ในหน้าสรุประบบกรองนะครับผม บอกไว้หมดแล้ว ขอบอกว่าไม่มีอะไรซับซ้อนและไม่แพงด้วย ง่ายมาก
ตอนนี้น้ำในบ่อใสแล้ว ปลาที่อยู่ในบ่อก็ดูสดชื่นคึกคัก ผมเข้าใจเลยครับว่าคนที่เลี้ยงปลาคาร์ฟ ตอนที่ทำระบบกรองให้น้ำใสแล้วทำได้นั้นมันรู้สึกดีใจจริงๆและก็โล่งใจไปพร้อมๆกันด้วย และการที่น้ำใสไม่เขียวแล้วก็ทำให้ไม่ต้องล้างช่องกรองแรกบ่อยเหมือนตอนที่น้ำเขียว ถ้าหากใครขยันก็ล้างทุกวันก็ไม่ผิดครับเพราะช่องแรกเป็นช่องดักตะกอนจะสกปรกที่สุดไม่เกี่ยวกับช่องที่เราเลี้ยงจุลินทรีย์อยู่ สำหรับผมแล้ว จะล้างบ่อดักตะกอนอาทิตย์ละครั้ง ส่วนใยกรองในช่องที่สามน้ำดูตามความสกปรกครับถ้าหากเริ่มเต็มก็ล้างเลย
จริงๆแล้วระบบกรองในปัจจุบันมีคนออกไอเดียที่ฉลาดมากๆครับ คือช่องแรกเขาจะเอาน้ำไหลผ่านตระแกรงที่ละเอียดมาก ตะกอนหรือขี้ปลาก็จะติดที่ตะแกรง แล้วน้ำที่ไหลรดตระแกรงเรื่อยๆนั้นก็จะล้างตะกอนเหล่านั้นลงมาที่รางน้ำที่ทำรองเอาไว้ แล้วก็ไหลเข้าไปในภาชนะที่หยิบไปทิ้งได้ง่าย ทำให้ลดภาระการล้างกรองช่องแรกไปเลยก็ว่าได้ เล่ามาอาจจะไม่เห็นภาพ ลองไปดูกันก่อนเลยครับ
จากคลิป ระบบที่เราเห็นจะเน้นการกรองตะกอนหยาบที่มาจากบ่อปลานะครับ โดยเป็นการกรองแล้วก็ล้าง แล้วก็แยกไว้ในกล่อง แล้วเราก็หยิบไปทิ้ง
ระบบจะล้างตัวเองโดยน้ำที่ไหลลงมาที่ตะแกรงนั่นแหละครับ น้ำส่วนใหญ่ไหลผ่านไปด้านล่าง น้ำส่วนนึงจะไหลตามตระแกรงไปที่รางแล้วก็พาตะกอนต่างๆไปด้วย จากนั้นตะกอนก็ไหลไปตามรางไปรวมในกล่องดักตะกอนอีกทีหนึ่ง น้ำที่ผ่านที่ดักตะกอนก็กลับเข้าระบบต่อไป
จะเห็นว่าระบบนี้ออกซิเจนมากมายเหลือเกิน เชื่อเลยว่าน้ำที่ออกจากถังสีขาวถังแรกมาที่ถังที่สอง ถ้าเป็นผม ผมจะเอาถังที่สองเป็นที่อยู่แบคทีเรีย จบเลยครับ ผมเชื่อว่าระบบนี้เอาอยู่แน่ เพราะว่าช่องกรองแรกมันสะอาดตลอดเวลา กรองไปล้างไป เรามีหน้าที่แค่เอาตะกอนที่มันแยกไว้ไปทิ้งเท่านั้นเอง
เอาไว้มีโอกาสมีจังหวะจะทำให้ดูกันครับ
วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2556
วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556
อัพเดท สภาพน้ำผ่านมา 1 อาทิตย์
จากตอนที่แล้วที่ผมได้ปรับปรุงระบบไปหลายอย่างลองหาอ่านกันดูนะครับว่าผมได้ทำอะไรบ้าง ดีใจมากครับหลังจากทำบ่อปลาเสร็จมาหลายเดือน น้ำก็เขียวมาตลอด ทดลอง ปรับ เปลี่ยน เพิ่ม นั่นนี่เรียกว่าสนุกครับ วันนี้เป็นอย่างไรไปดูกันครับ
ถ้าเทียบกับอาทิตย์ที่แล้วจะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่า ความเขียวของน้ำลดลงไปมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จะสังเกตเห็นสะดือบ่อได้แล้ว และมองเห็นปลาซะที เรียกว่าไม่เห็นสะดือบ่อมาหลายเดือนมาก ตะกอนในน้ำก็น้อยมาก จนตอนนี้สามารถมองเห็นตัวปลาได้อย่างชัดเจน คือถ้าหากพูดว่าสภาพน้ำใสปิ๊งนั้นคือ 100 เปอร์เซ็นต์ สภาพน้ำของบ่อตอนนี้ก็อยู่ที่ 75 เปอร์เซ็นต์แล้วหละครับ
จากเดิมที่ผมต้องล้างบ่อดักตะกอนในช่องแรกบ่อยมากเรียกว่าตอนที่น้ำเขียวนั้นเวลาล้างบ่อดักตะกอนจะมี เศษตระไคร่น้ำติดอยู่เยอะมาก แต่ว่าหลายวันที่ผ่านมาแทบจะไม่มีเศษตระไคร่สีเขียวในบ่อดักตะกอนแล้วครับ แต่ผมก็ไม่ได้ปล่อยให้มันทำงานเองเฉยๆนะครับ ระหว่างนั้นผมได้คอยถ่ายน้ำออกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์เพื่อค่อยๆลดความเขียวลงจนล่าสุด ผมไม่อยู่บ้านสองวัน
บ่อที่เขียวๆก็ใสขึ้นอย่างที่เห็นครับ เรียกว่าแปลกใจเหมือนกัน เวลาจะใสก็ใสเร็วมาก ตอนที่เขียวไม่ว่าจะถ่ายน้ำมากน้อยยังไงพอโดนแดดก็เขียวเร็วมากเหมือนกัน ตอนนี้ก็กำลังจดบันทึกและทบทวนครับว่าได้เพิ่มได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปบ้าง และที่สำคัญหากว่าน้ำใสร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วจะจัดการกับระบบต่างๆที่ทำไว้ชั่วคราวให้เรียบร้อยสวยงามได้อย่างไร แต่ว่าตอนนี้น้ำใสขึ้นเรื่อยๆได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับบ่อปลาคาร์ฟบ่อนี้ที่เคยเขียวมาตลอดหลายเดือนแล้วครับ
แล้วติดตามกันต่อครับว่าสุดท้ายแล้วบ่อนี้จะใสปิ๊งร้อยเปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่และใช้อะไรบ้างคอยดูกันครับ
ถ้าเทียบกับอาทิตย์ที่แล้วจะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่า ความเขียวของน้ำลดลงไปมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จะสังเกตเห็นสะดือบ่อได้แล้ว และมองเห็นปลาซะที เรียกว่าไม่เห็นสะดือบ่อมาหลายเดือนมาก ตะกอนในน้ำก็น้อยมาก จนตอนนี้สามารถมองเห็นตัวปลาได้อย่างชัดเจน คือถ้าหากพูดว่าสภาพน้ำใสปิ๊งนั้นคือ 100 เปอร์เซ็นต์ สภาพน้ำของบ่อตอนนี้ก็อยู่ที่ 75 เปอร์เซ็นต์แล้วหละครับ
จากเดิมที่ผมต้องล้างบ่อดักตะกอนในช่องแรกบ่อยมากเรียกว่าตอนที่น้ำเขียวนั้นเวลาล้างบ่อดักตะกอนจะมี เศษตระไคร่น้ำติดอยู่เยอะมาก แต่ว่าหลายวันที่ผ่านมาแทบจะไม่มีเศษตระไคร่สีเขียวในบ่อดักตะกอนแล้วครับ แต่ผมก็ไม่ได้ปล่อยให้มันทำงานเองเฉยๆนะครับ ระหว่างนั้นผมได้คอยถ่ายน้ำออกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์เพื่อค่อยๆลดความเขียวลงจนล่าสุด ผมไม่อยู่บ้านสองวัน
บ่อที่เขียวๆก็ใสขึ้นอย่างที่เห็นครับ เรียกว่าแปลกใจเหมือนกัน เวลาจะใสก็ใสเร็วมาก ตอนที่เขียวไม่ว่าจะถ่ายน้ำมากน้อยยังไงพอโดนแดดก็เขียวเร็วมากเหมือนกัน ตอนนี้ก็กำลังจดบันทึกและทบทวนครับว่าได้เพิ่มได้ปรับเปลี่ยนอะไรไปบ้าง และที่สำคัญหากว่าน้ำใสร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วจะจัดการกับระบบต่างๆที่ทำไว้ชั่วคราวให้เรียบร้อยสวยงามได้อย่างไร แต่ว่าตอนนี้น้ำใสขึ้นเรื่อยๆได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับบ่อปลาคาร์ฟบ่อนี้ที่เคยเขียวมาตลอดหลายเดือนแล้วครับ
แล้วติดตามกันต่อครับว่าสุดท้ายแล้วบ่อนี้จะใสปิ๊งร้อยเปอร์เซ็นต์ได้หรือไม่และใช้อะไรบ้างคอยดูกันครับ
วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
ถังกรองบ่อปลาคาร์ฟ
ถังกรองบ่อปลาคาร์ฟอันนี้ผมทำเพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยบ่อกรองหลักอีกทีหนึ่งครับ ซื้อถังมา 99 บาทลดราคาพอดีจาก 199 บาท ผมเจาะรูด้านบนที่เดียวเพราะจะกรองจากล่างขึ้นบนโดยเอาน้ำปล่อยลงก้นถังโดยท่อพีวีซีแล้วต่อสามทางแยกไว้ก้นถังวัสดุกรองก็เอาง่ายๆเลยครับหินใส่ตู้ปลาอย่างใหญ่อยู่ล่างขึ้นมาก็เป็นอย่างเล็กและบนสุดปิดด้วยสก๊อตไบร์ท เพื่อดักละเอียดสุดท้ายตามนี้ครับ
ไล่จากล่างขึ้นบน
1.หินใหญ่
2.หินเล็ก
3.สก๊อตไบร์ท
ปล.หินผมเอามุ้งมาตัดแล้วห่อเอาไว้เป็นชุดๆหลวมๆนะครับเวลาล้างได้สะดวก
รูปนี้ตอนใช้ใหม่ๆครับน้ำจะขุ่นหน่อย แต่ยังไงซะน้ำในถังกรองจะใสขึ้นเรื่อยๆตามน้ำในบ่อเลี้ยงครับ ไม่ใช่ว่าน้ำในถังกรองจะใสเเจ๋วในบ่อจะเขียวมันเป็นไปไม่ได้ครับ มันจะค่อยๆปรับสภาพตามกันไปเองไม่ต้องใจร้อน ทดลองไปเรื่อยๆเดี๋ยวเจอจุดพอดีเองครับ แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่เจอเหมือนกัน กำลังรอดูอยู่ว่าจะเจอจุดนั้นตรงไหน
หลายคนบอกว่าต้่องทำอย่างนั้นอย่างนี้ต้องใช้วัสดุเคเคทู บวกมูพวิ่งเบดอะไรต่างๆนานา ผมว่ามันยังไงก็ไม่รู้ ผมชอบในแนวทางตัวเองมากกว่าทดลองไปเรื่อยๆ ขอเเค่เราเข้าใจหลักการของการกรองชีวภาพแล้วก็ค่อยๆปรับค่อยๆเปลี่ยนประยุกต์ไปเรื่อยๆ ประหยัดตังส์แล้วใช้ได้เหมือนกันมันจะสะใจกว่าครับ หรือบางครั้งแพงกว่าแต่ด้วยมือเราที่ทำที่คิดเองนั่นคือสิ่งที่สนุกในการเล่นหรือว่าเลี้ยงน้ำในบ่อเลี้ยงปลาของเราครับ
แล้วเดี๋ยวอาทิตย์นึงมาดูครับว่าจะดีขึ้นหรือไม่
ไล่จากล่างขึ้นบน
1.หินใหญ่
2.หินเล็ก
3.สก๊อตไบร์ท
ปล.หินผมเอามุ้งมาตัดแล้วห่อเอาไว้เป็นชุดๆหลวมๆนะครับเวลาล้างได้สะดวก
รูปนี้ตอนใช้ใหม่ๆครับน้ำจะขุ่นหน่อย แต่ยังไงซะน้ำในถังกรองจะใสขึ้นเรื่อยๆตามน้ำในบ่อเลี้ยงครับ ไม่ใช่ว่าน้ำในถังกรองจะใสเเจ๋วในบ่อจะเขียวมันเป็นไปไม่ได้ครับ มันจะค่อยๆปรับสภาพตามกันไปเองไม่ต้องใจร้อน ทดลองไปเรื่อยๆเดี๋ยวเจอจุดพอดีเองครับ แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่เจอเหมือนกัน กำลังรอดูอยู่ว่าจะเจอจุดนั้นตรงไหน
หลายคนบอกว่าต้่องทำอย่างนั้นอย่างนี้ต้องใช้วัสดุเคเคทู บวกมูพวิ่งเบดอะไรต่างๆนานา ผมว่ามันยังไงก็ไม่รู้ ผมชอบในแนวทางตัวเองมากกว่าทดลองไปเรื่อยๆ ขอเเค่เราเข้าใจหลักการของการกรองชีวภาพแล้วก็ค่อยๆปรับค่อยๆเปลี่ยนประยุกต์ไปเรื่อยๆ ประหยัดตังส์แล้วใช้ได้เหมือนกันมันจะสะใจกว่าครับ หรือบางครั้งแพงกว่าแต่ด้วยมือเราที่ทำที่คิดเองนั่นคือสิ่งที่สนุกในการเล่นหรือว่าเลี้ยงน้ำในบ่อเลี้ยงปลาของเราครับ
แล้วเดี๋ยวอาทิตย์นึงมาดูครับว่าจะดีขึ้นหรือไม่
วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
บ่อปลาคาร์ฟน้ำเขียว การแก้ไข 2
หลังจากเพิ่มสแลนบังแดดสีเขียว 50% สองชั้นแล้วปรับปรุงระบบกรองเล็กน้อย เวลาผ่านมา 1 อาทิตย์ น้ำยังไม่ใสแจ๋ว แต่ว่าที่เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนคือ ตระไคร่ที่หลุดลอยและทำให้ช่องกรองแรกเริ่มตันเร็วนั้น น้อยลงไป 90% แล้ว
ที่มีการปรับปรุงช่องกรองคือ ช่องที่สามที่เดิมเป็นสก๊อตไบรแล้วข้างล่างรองด้วยไบโอบอล แต่รู้สึกว่าไบโอบอลถ้าไปไว้ในช่องที่สี่ทำเป็นกรองชีวภาพให้แบคทีเรียอยู่จะดีกว่า ก็เลยย้ายไบโอบอลไปไว้ช่องที่4 แล้วเอากระถางพลาสติกสีดำที่มีรูก้นกระถางเยอะๆมาผูกต่อกันสามอัน ทำสองชุดหรือตามขนาดของช่องกรองของแต่ละท่านแล้วก็เอาตาข่ายพลาสติกตัดให้เท่ากับช่องกรองวางไว้บนกระถางก็รองแผ่นสก๊อตไบรแทนไบโอบอลได้พอดี
และสำคัญที่เปลี่ยนอีกอย่างคือให้น้ำไหลผ่านกรองช้าๆ โดยการแบ่งน้ำที่จะเข้าบ่อมาพ่นลงช่องที่ 4 ทำออกซิเจนให้แบคทีเรียที่เราจะเลี้ยงไปในตัวโดยไม่ต้องเพิ่มปั๊มออกซิเจนด้วย ระหว่างน้ำล้นช่องที่ 4 ไปช่องที่ 5 ก็เอาตาข่ายพลาสติกมากั้นไบโอบอลเอาไว้ไม่ให้ลอยไปเข้าช่องที่ 5 ที่มีปั๊มอยู่
คุณภาพน้ำนั้นถือว่าเลี้ยงปลาได้ และน้ำใสขึ้น 10% ตอนนี้รอเวลาไปเรื่อยๆสังเกตน้ำไปเรื่อยๆครับ แน่นอนว่าน้ำค่อยๆดีขึ้นแล้วพบกันอีกครั้งครับว่าผลจะเป็นอย่างไรต่อไป
ที่มีการปรับปรุงช่องกรองคือ ช่องที่สามที่เดิมเป็นสก๊อตไบรแล้วข้างล่างรองด้วยไบโอบอล แต่รู้สึกว่าไบโอบอลถ้าไปไว้ในช่องที่สี่ทำเป็นกรองชีวภาพให้แบคทีเรียอยู่จะดีกว่า ก็เลยย้ายไบโอบอลไปไว้ช่องที่4 แล้วเอากระถางพลาสติกสีดำที่มีรูก้นกระถางเยอะๆมาผูกต่อกันสามอัน ทำสองชุดหรือตามขนาดของช่องกรองของแต่ละท่านแล้วก็เอาตาข่ายพลาสติกตัดให้เท่ากับช่องกรองวางไว้บนกระถางก็รองแผ่นสก๊อตไบรแทนไบโอบอลได้พอดี
และสำคัญที่เปลี่ยนอีกอย่างคือให้น้ำไหลผ่านกรองช้าๆ โดยการแบ่งน้ำที่จะเข้าบ่อมาพ่นลงช่องที่ 4 ทำออกซิเจนให้แบคทีเรียที่เราจะเลี้ยงไปในตัวโดยไม่ต้องเพิ่มปั๊มออกซิเจนด้วย ระหว่างน้ำล้นช่องที่ 4 ไปช่องที่ 5 ก็เอาตาข่ายพลาสติกมากั้นไบโอบอลเอาไว้ไม่ให้ลอยไปเข้าช่องที่ 5 ที่มีปั๊มอยู่
คุณภาพน้ำนั้นถือว่าเลี้ยงปลาได้ และน้ำใสขึ้น 10% ตอนนี้รอเวลาไปเรื่อยๆสังเกตน้ำไปเรื่อยๆครับ แน่นอนว่าน้ำค่อยๆดีขึ้นแล้วพบกันอีกครั้งครับว่าผลจะเป็นอย่างไรต่อไป
วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
บ่อปลาคาร์ฟน้ำเขียว วิธีแก้
การเลี้ยงปลาคาร์ฟนั้นจริงๆแล้วต้องบอกว่าไม่ได้ยากเย็นอะไร ปัญหาก็ไม่ได้เยอะแยะหรอกครับ ถ้าหากว่าบ่อเลี้ยงนั้นผู้เลี้ยงควบคุมดูแลเรื่องความสะอาดได้ดีรวมทั้งถ้าบ่อไม่ได้อยู่กลางแจ้ง ซึ่งพอเมื่อบ่ออยู่กลางแจ้งปัญหาที่ตามมาทันทีก็คือน้ำเขียว
สังเกตดูจากรูปนะครับ คุณภาพน้ำที่เห็นนี้ถือว่าดีมาก ถ้าหากว่าระบบกรองทำงานได้ขนาดนี้ในขณะที่บ่ออยู่กลางแจ้งก็ไม่ต้องกังวลแล้วครับว่ากรองเรามีปัญหาหรือไม่ตัดไปได้เลย
ปัจจัยที่เราจะแก้ในลักษณะเคสนี้คือลดแสงลง โดยใช้สแลนกรองแสง 50% เริ่มจาก 1 ชั้นก่อนและสังเกตุดูสัก 1 อาทิตย์ เพื่อลดอุณหภูมิของน้ำ เท่านี้ปัจจัยที่น้ำเขียวก็จะลดลงไปสองอย่างเลยทีเดียว เชื่อว่าน้ำจะใสขึ้นค่อนข้างแน่นอนโดยไม่ต้องใช้หลอดยูวีให้เสียค่าไฟเพิ่มครับ
แน่นอนว่าทุกคนที่เลี้ยงปลาคาร์ฟและบ่อปลาคาร์ฟอยู่กลางแจ้งเจอปัญหาน้ำเขียวกันทั่วหน้าแน่นอน ยากที่จะหลีกเลี่ยง นอกจากว่าจะทำหลังคามิดชิดไม่ให้บ่อโดนแดดเลยแต่ว่าก็คงจะไม่ดีแน่เพราะปลาคาร์ฟนั้นต้องโดนแสงได้รับแสงบ้างถึงจะสีันสวยงาม ไม่อย่างนั้นก็คงจะบอกไม่ได้ว่าบ่อปลานั้นเป็นส่วนหนึ่งของสวนด้วย
อย่างที่ผมบอกครับว่าอาทิตย์แรกลอง 1 ชั้นก่อน ถ้าไม่ได้ผลก็เพิ่มเป็นสองชั้น หรือถ้าหากว่าใครจะทำสองชั้นไปเลยก็ไม่ว่ากันครับหากไม่อยากแก้ไขบ่อยๆ ที่บอกให้ทำชั้นเดียวก่อนก็เพราะว่า ถ้าหากว่าได้ผลเราจะได้ให้แสงกับบ่อปลาได้มากที่สุด โดยไม่ต้องลดแสงจนเกินความจำเป็น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแสงของบ่อของแต่ละคนด้วยเหมือนกันว่าโดนแดดมากน้อยในแต่ละวันแค่ไหน ซึ่งผมก็คงบอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะให้คุณกันแดดกี่ชั้น การทดลองจากน้อยไปมากน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วครับ ทดลอง เข้าใจ แล้วเราจะได้จุดที่สมดุลที่สุดสำหรับบ่อเราเองครับ
สังเกตดูจากรูปนะครับ คุณภาพน้ำที่เห็นนี้ถือว่าดีมาก ถ้าหากว่าระบบกรองทำงานได้ขนาดนี้ในขณะที่บ่ออยู่กลางแจ้งก็ไม่ต้องกังวลแล้วครับว่ากรองเรามีปัญหาหรือไม่ตัดไปได้เลย
ปัจจัยที่เราจะแก้ในลักษณะเคสนี้คือลดแสงลง โดยใช้สแลนกรองแสง 50% เริ่มจาก 1 ชั้นก่อนและสังเกตุดูสัก 1 อาทิตย์ เพื่อลดอุณหภูมิของน้ำ เท่านี้ปัจจัยที่น้ำเขียวก็จะลดลงไปสองอย่างเลยทีเดียว เชื่อว่าน้ำจะใสขึ้นค่อนข้างแน่นอนโดยไม่ต้องใช้หลอดยูวีให้เสียค่าไฟเพิ่มครับ
แน่นอนว่าทุกคนที่เลี้ยงปลาคาร์ฟและบ่อปลาคาร์ฟอยู่กลางแจ้งเจอปัญหาน้ำเขียวกันทั่วหน้าแน่นอน ยากที่จะหลีกเลี่ยง นอกจากว่าจะทำหลังคามิดชิดไม่ให้บ่อโดนแดดเลยแต่ว่าก็คงจะไม่ดีแน่เพราะปลาคาร์ฟนั้นต้องโดนแสงได้รับแสงบ้างถึงจะสีันสวยงาม ไม่อย่างนั้นก็คงจะบอกไม่ได้ว่าบ่อปลานั้นเป็นส่วนหนึ่งของสวนด้วย
อย่างที่ผมบอกครับว่าอาทิตย์แรกลอง 1 ชั้นก่อน ถ้าไม่ได้ผลก็เพิ่มเป็นสองชั้น หรือถ้าหากว่าใครจะทำสองชั้นไปเลยก็ไม่ว่ากันครับหากไม่อยากแก้ไขบ่อยๆ ที่บอกให้ทำชั้นเดียวก่อนก็เพราะว่า ถ้าหากว่าได้ผลเราจะได้ให้แสงกับบ่อปลาได้มากที่สุด โดยไม่ต้องลดแสงจนเกินความจำเป็น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแสงของบ่อของแต่ละคนด้วยเหมือนกันว่าโดนแดดมากน้อยในแต่ละวันแค่ไหน ซึ่งผมก็คงบอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะให้คุณกันแดดกี่ชั้น การทดลองจากน้อยไปมากน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วครับ ทดลอง เข้าใจ แล้วเราจะได้จุดที่สมดุลที่สุดสำหรับบ่อเราเองครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)